ไทยรัฐออนไลน์
11 ก.พ. 2565 11:46 น.
วันที่ 11 ก.พ.นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง รถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือจะเป็นแค่ “เกมแย่งกระดูกหมูจากปากหมา” มีเนื้อหาระบุว่า การที่ 7 รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย แท็กทีมกันลาประชุม ประท้วง กทม.-มหาดไทย นำวาระขยายสัมปทานให้กับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ออกไปอีก 30 ปี แลกกับการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย จนกระทั่งสุดท้ายต้องถอนเรื่องออกจากที่ประชุมไป สะท้อนให้เห็นว่าพลังกัญชาของภูมิใจไทยออกฤทธิ์แรง จนนายกฯ มึน ถึงขั้นออกปากในที่ประชุม ครม.ว่า วันนี้พิสูจน์แล้วว่า ใครเป็นอย่างไร
สถานการณ์นี้พิสูจน์แล้วจริงๆ ว่าใครเป็นอย่างไร เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งระหว่าง รมว.คมนาคม กับ รมว.มหาดไทย และกทม. ถูกตั้งคำถามมาโดยตลอดว่า เป็นเพราะมีใครถือข้างกลุ่มทุนรายใดเพื่อมาคัดง้างกัน แย่งการเป็นเจ้าของสัมปทานกันระหว่างรายเก่ากับรายใหม่ที่พยายามสอดแทรกหรือไม่
“สำหรับผมมองว่าไม่ว่าใครจะได้สัมปทานไป ไม่มีความหมายเท่ากับจะทำอย่างไรให้การสัมปทานใหม่เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติและประชาชน ถ้าจะต่ออายุสัมปทาน แต่ตั้งราคาค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย ยังเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับประชาชนผู้บริโภค ที่ตอนนี้ลำบากสาหัสกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นอยู่แล้ว ผมเห็นว่าราคาที่สภาองค์กรของผู้บริโภคเสนอที่ 44 บาท ตลอดสายไปจนถึงสิ้นสุดสัมปทานในปี 2572 โดยให้จัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาท และหลังสิ้นสุดสัมปทานแล้วให้รัฐบาลเก็บค่าโดยไม่เกิน 25 บาทตลอดสาย เป็นตัวเลขที่เหมาะสม ถ้าทำไม่ได้ การเปิดสัมปทานใหม่ก็ควรทำอย่างโปร่งใส ตรงไป ตรงมา และที่สำคัญถึงเวลาที่ต้องเปิดเผยสัญญาสัมปทานเหล่านี้ให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้ ตรวจสอบได้ จะได้หายสงสัยว่าที่คัดง้างกันไปมา มันคือเกมแย่งกระดูกหมูจากปากหมากันแค่นั้น” นายเชาว์ระบุ
อ่านเพิ่มเติม…